คงไม่มีโปรแกรมเมอร์มืออาชีพคนไหน ไม่เคยเจอปัญหาบั๊คและ Error หน้างานแน่นอนและที่ตามมาจาก User เมื่อเห็นเราแก้หน้างานก็คือการเพิ่มสโครปงานให้เราสิ่งนี้ เป็นสิ่งที่โปรแกรมเมอร์ทุกคนต่างก็ปวดหัวมานักต่อนัก เรามาไล่กันว่าปัญหามันเกิดจากอะไร
ขั้นตอนการทำงานของการพัฒนาซอฟท์แวร์ทั่วไปคือ
1) การหาลูกค้าที่ต้องการ Software นี่คือขั้นตอนแรกของการพัฒนาซอฟท์แวร์ โดยการหาลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อจะให้มีคนใช้โปรแกรมของเรา
2) การตกลงขอบเขตของงาน ให้ชัดเจน ข้อนี้คือขั้นตอนต่อมาหลังจากที่เราได้ลูกค้าแล้วเราก็ต้องมีการตกลงขอบเขตของงานให้ชัดเจน ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะการไม่ชัดเจนของขอบเขตไม่ว่าจะเป็นหน้าจอหรือ ฟังก์ชันการทำงาน ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดปัญหาตามมาทั้งสิ้น และทำให้งบประมาณบานปลายไม่ว่าจะเป็นเวลาหรือเงิน
3) ดำเนินการออกแบบหน้าจอและ UI ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนที่เราจะต้องทำการออกแบบและตกลงหน้าจอกับลูกค้าว่าเราจะมีการทำหน้าจอขนาดนี้ ลักษณะอย่างนี้ให้ลูกค้ารับทราบเพื่อให้สนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างถูกต้อง ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุดคือจำเป็นจะต้องมีการเซ็นสัญญาทุกครั้งไม่ใช่ตกลงปากปล่าวเด็ดขาด
4) ดำเนินการพัฒนา ขั้นตอนนี้คือการลงมือพัฒนาซอฟท์แวร์ การพัฒนาซอฟท์แวร์นั้น จะต้องพัฒนาสอ่งอย่างคือซอฟท์แวร์และเอกสารในการดำเนินการพัฒนาซึ่ง ถ้าในทางปฏิบัติจะมีตัว Code และ SDD,SRS เอกสารสามอย่างจะออกมาในขั้นตอนนี้
5) Test ขั้นตอนที่สำคัญหลังพฒนา ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด หลังจากพัฒนาซอฟท์แวร์เพราะเมื่อทำเรียบร้อยแล้ว Test จะต้องพยายามหาจุดผิดพลาดและข้อบกพร่องออกมาให้ได้ เพื่อให้การไปพรีเซนกับลูกค้านั้นผ่านราบรื่น และสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า โดยการเทสจะมีสองขั้นตอนคือ เทสภายใน(Internal Test) และลูกค้าเทส(UAT) การเทสที่ดีจะต้องมีทีมเทสและการกะระยะเวลาในการแก้บั๊คที่อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อการันตีความชัวร์
5) Deploy ขั้นตอนในการสร้างตัว Setup ให้พร้อมใช้งาน ขั้นตอนนี้ต้องผ่านการเทสให้เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถทำได้ เพราะนี่คือขั้นตอนก่อนที่จะส่งมอบโปรแกรมให้กับลูกค้าแล้ว
6) Lunch คือการส่งมอบโปรแกรมให้กับลูกค้า ขั้นตอนนี้เราก็เก็บเงินครบเรียบร้อยที่เหลือก็จะเป็น MA
เป็นการสิ้นสุดการพัฒนาโปรแกรม สำหรับการพัฒนาโปรแกรม แต่ละขั้นตอนล้วนแต่สำคัญทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่จะมีปัญหาที่พบคือ
1) การขยายสโครปงาน ซึ่งข้อนี้จะพบเมื่อเข้าพบลูกค้าบ่อยๆกลายเป็นการขยายโสครปงานเองอัตโนมัติ
2) ทำงานไม่ถูกกับที่ความต้องการลูกค้า สืบเนื่องจากเมื่อเราทำงานแล้วพบลูกค้าเก็บความต้องการมาแต่ว่า ไม่การันตีก่อนว่าถูกต้องหรือไม่
3) บั๊คหน้างาน งานนี้ใหญ่มาก เพราะมันบั่นทอนความรู้สึกมาก การแก้ไขปัญหาหน้างานเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลียงมากที่สุดเพราะมันแสดงถึงความเชื่อมั่นในระบบและประสิทธิภาพของบริษัทเลยทีเดียว สิ่งที่ควรมีคือเทสสคริป์ให้ชัดเจน ควรจะมีอย่างมาก เทสให้ดีจะได้ไม่เกิดขึ้นหรือเกิดให้น้อยที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น