Android คือระบบปฏิบัติการมือถือที่เรียกได้ว่ามีประวัติอาจจะยาวนานกว่า iOS ของ iPhone เนื่องจาก Android นั้นแรกเริ่มเดิมทีก็มีต้นแบบมาจากการจะเป็นคู่แข่งกับ อดีตราชาแห่งมือถืออย่าง Nokia นั่นเอง
แรกเริ่มเดินที Android คือระบบปฏิบัติการที่จะใช้บนกล้องดิจิตอล แต่ตลาดที่หดตัวทำให้เปลี่ยนมาเป็นมือถือแทน ผู้ให้กำเนิดคือ Andy Rubin ครั้งแรกที่เขาให้กำเนิด Android ภายใตับริษัท แอนดรอย จำกัด ในรัฐแคลิฟอเนี่ย (อ่านเพิ่มเติมได้้ที่นี่) จากนั้นไม่นานก็ถูก Google Take Over ไป เมื่อ Google เทคโอเวอร์แอนดรอย์ไปแล้วหลังจากนั้นจึงปรับปรุงหน้าจอและ UI ให้ทันสมัยให้เข้ากับยุค SmartPhone มือถือรุ่นใหม่จากนั้น Google ก็ทำดำเนินกลยุทธ์ Opensource ตามแบบ Android ผลคือทำให้การปรับแต่งง่ายต่อนักพัฒนามาก และแต่ละเจ้าที่ใช้ Android สามารถเรียกจุดเด่นของตัวเองได้ จึงทำให้เรียกได้ว่า Android คลองโลกอยู่น่ะปัจจุบัน
กลยุทธ์ของ Google-Android
1) Opensource เรียกพันธมิตร
การเรียกพันธมิตรนี่เองที่เป็นกลยุทธ์หลัก ทำให้ Google ประสบผลสำเร็จจนปัจจุบัน เพราะการเปิด Opensource โดยไม่เก็บค่า License ของ OS ทำให้เกิดต้นทุนต่ำของผู้พันธมิตร และยังเปิด Source ให้เป็นการสร้างเอกลักษณ์ จุดเด่นเฉพาะตัวของ OEM แต่ละเจ้าอีก การทำเช่นนี้ทำให้ผุ้ผลิตชอบ Android มากขึ้นอีก จึงมี OEM หลายเจ้าเข้ามาใช้ Android ทันที ไม่ว่าจะเป็น Samsung ,HTC, Xiamoni ,Huawei,Sony เป็นต้น
2) รายได้รูปแบบใหม่ทางอ้อมจากโฆษณา
แม้ Android จะเป็น Opensource ที่เปิดให้ OEM แต่ละเจ้าได้ทำการใส่เอกลักษณ์ของตัวเองเข้าไปแต่คณะเดียวกัน ก็ยังมีการควบคู่บางอย่างไว้เพื่อให้เป็นรายได้ของ Google นั่นคือ การใส่ Google Play Service และ Advertise บน Free Application ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้ Google ได้รับรายได้มหาศาล แม้ผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นจะได้เงินด้วย แต่Google ก็ยังได้รายได้มหาศาลจากผู้ผลิตที่กระจาย Android ไปทั่วโลกสั่งผลให้ผลประกอบการ เพิ่มขึ้นๆทุกปีๆ จนแซงหน้า Apple
3) สนองความต้องการของคนในยุค 3G
วิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ Google ไมไ่ด้หยุดแค่ Search Engine แหล่งทำเงินหลักของ Google อีกต่อไป แต่ CEO ของ Google ยังมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เมื่อมี Android แล้ว และยุค 3G กำลังจะมาถึง ซึ่งอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ทุกคน หนึ่งสิ่งที่คนต้องการในยุค 3G เข้าถึงผู้คนนั้นคือ การบันเทิง นั่นเอง
หนึ่งสิ่งที่ Google คิดได้ถูกต้องมาโดยตลอดนั่นคือการสร้างความบันเทิง Google เริ่มมีแนวชัดเจนในการเน้นการบันเทิงมากขึ้นเริ่มจากการที่ ซื้อYoutube ที่เป็นแหล่งรวมวีดีโอบันเทิงอันดับหนึ่งในโลก แม้ตอนเข้าซื้อจะยังมีคู่แข่งบ้างแต่นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ปัจจุบัน Youtube ได้แพร่หลายไปมากมาย คนทุกคนสามารถเข้าชม Youtube ผ่าน มือถือของตัวเอง ทำให้การซื้อ Youtube แม้มูลค่าจะสูงแต่เป็นการทำที่ถูกต้องที่สุด ต่อมาเมื่อมีแหล่งดูวีดีโอแล้ว ก็ยังต้องการพื้นที่ในการแชร์ความรู้สึกส่วนตัว ให้กับเพื่อนๆทุกคนได้ฟังอีกด้วย จึงทำการเปิด Google Plus ขึ้นมา แม้นี่จะไม่ใช่หนึ่งในแนวทางที่ Google ใช้แชร์ความรู้สึกให้กับคนอื่นๆ โดยก่อนหน้าก็จะมี blogger ของ Google อยู่แล้วแต่การมี Google Plus ขึ้นอีก Community หนึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญของ Google ทีเดียว เมื่อมีการแชร์แล้วก็อยากมีการสนทนากันต่อจึงตามด้วย Google Hangout ทันที เมื่อถึงยุคนี้ จะทำให้เห็นว่า Google ครอบคลุม ไปเกือบทุกบริการที่คนต้องการเลย
4) การพัฒนาถี่และรวดเร็ว
เมื่อมีการคิดถึงบริการที่ครอบคลุมทั่วไปแล้ว Google ก็ยังรู้ดีว่าโลกนี้พัฒนาไปเร็วมาก จึงจะต้องไม่หยุดนิ่งทำให้การพัฒนารุ่นเร็วและถี่ ไม่ว่าจะเป็น Android 2.2,Android 2.4,Android 3.0 และล่าสุด Android 4.4 ล้วนแล้วแต่ระยะเวลาในการพัฒนาที่เร็วทั้งสิ้น เพื่อให้ก้าวหน้าเร็วกว่าคู่แข่งอย่างไม่หยุดยั้งนั่นเอง
การพัฒนาหลากหลายรุ่นและถี่ทำให้เกิดปัญหา Flagmention หรือความแตกต่างของรุ่นขึ้นกับมือถือ Android มากมาย แต่ปัญหานี้กลับไม่ใช่ปัญหาใหญ่เมื่อเจอกับราคาของ Android ที่ไม่สูงมาก ทำให้การเปลียนใช้มือถือแต่ละรุ่นไม่ใช่อุปสรรคเลย
5) Google Map & Translate ไม้ตายสำหรับอนาคต
วิสัยทัศน์ ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้สำหรับอินเตอร์เน็ตเข้าถึงทุกคน Map & Translate คือหนึ่งในอนาคตที่น่กลัวหนึ่งของ Google เพราะอะไร? อนาคตอินเตอร์เน็ตจะเข้าถึงรถและบ้านได้ ซึ่งการสั่งงานด้วยเสียงคือคีย์สำคัญในการใช้งานพวกนี้ การแปลงภาษาให้ใช้ได้ทุกภาษาทั่วโลกจากคำสั่งเสียง การมีแผนที่ๆ แม่นยำ จะทำให้เรียกความน่าเชื่อถือ และยังอาจจะเป็นต้นกำเนิดหลักของรถยนต์ไร้คนขับที่ดีอีกด้วย
Map แม้ปัจจุบันจะยังไม่ครอบคลุมทั่วโลกและยังไม่เชื่อมต่อกับ คำสั่งเสียงในการค้นหา แต่ต่อไปมันจะรวมกันบนรถยนต์ การทำเช่นนี้จะทำให้ Google เป็นผู้ให้บริการหลักของ ผู้ผลิตรถยนต์ทุกเจ้า เนื่องจากความพร้อมของเทคโนโลยีที่เตรียมพิชิตตั้งแต่ในมุ้ง
6) CSR Free Highspeed Internet
Google ไม่ใช่แต่บริษัทมุ่งค้ากำไรอย่างเดียว แต่ยังมีบริการ CSR เพื่อตอบสนอง คืนสู่ชุมชนด้วยนั่นคือการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (Fiber optic) บนห้องสมุดฟรี(ตอนนี้เริ่มต้นที่ Kansas City ) ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่าวิสัยทัศน์ของ CEO Google Larry Page นั่นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ทั้งก้าวไกลและครอบคลุม เรียกได้ว่า ทั้งคุกคามและรุกไปพร้อมๆกัน การที่มีพันธมิตรจำนวนมากทำให้เป็นการคุกคาม คู่แข่งไปในตัวทำให้ตัวเองมีเวลาในการพัฒนา Product ตัวเองอย่างถึงขีดสุด ไม่ต้องทุ่มงบประมาณมากมายในการทวงสิทธิบัตรเพื่อคุกคามอย่าง Apple ขณะเดียวกันยังมีการเตรียมการให้ครอบคลุมทั่วทุกอย่าง ในยุค 3G อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงอีก เรียกว่า ก้าวไกลมากเลยทีเดียว ฉะนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน อนาคตเราอาจจะได้เห็น Google เป็นเจ้าโลกไปอีกนานหลายสิบปีและไม่แน่นวัตกรรมที่คาดไม่ถึง เช่น หุ่่น Drone ที่ตอนนี้อาจจะย้งไม่เป็นรูปร่าง อนาคตหากมันเป็นรูปร่างจริง อาจจะได้เห็นหุ่นยน Drone ขนส่งคนแทน รถยนต์ก็เป็นได้เนื่องจาก Drone มีข้อดีตรงที่ สามารถลอยบนอากาศได้ทำให้แก้ปัญหาทางด้าน ที่จอดลงไป พร้อมกับความฉลาดที่ สามารถกลับเข้าสู่ลานจอดได้เองและเรียกมารับได้ เราอาจจะเห็นผู้ที่ทำเช่นนี้ คือ Google ก็เป็นได้
นายไอที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น