แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แท๊บเล็ต แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แท๊บเล็ต แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

PC ยังไม่ตาย !!!!

หลังจากมีอุปกรณ์ Smart Device มากมายที่ออกมาในช่วง 2-3 ปีนี้ เทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วขึ้นมากไม่ว่าจะเป็น Smart Phone, Tablet, Smart Wearable และ กำลังจะมี Smart Car ตามมา แต่เชื่อไหมอุปกรณ์ที่เริ่มต้นอย่าง PC นั้นจะยังไม่ตาย ทำไมน่ะหรอ? สาเหตุผมจะอธิบายให้เห็น ดังนี้นะครับ

PC ในทีนี้รวมถึง NB ด้วยนะครับ

1) PC มีความสามารถที่สุงกว่า Smart Device ทั้งหมด ความสามารถในทีนี้คือความแรงของเครื่องและการใช้งาน โดย PC สามารถใช้งานหนักๆ เปิดเครื่องได้นานและมีความจุของอุปกรณ์ที่มากทำให้ การทำหลายๆ ที่ยังคงต้องใช้ PC เป็นหลักอยู่ดี

2) เกมบน PC มีกราฟฟิกสวยงามและเอื้อนักพัฒนา ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อนึงที่เกื้อหนุน PC อยู่สาเหตุเพราะการเล่นเกมหนักๆที่มีการประมวลผลสูงๆ ยังเอื้อต่ออุปกรณ์ PC อยู่มาก แม้จะน้อยลงแต่ว่าตลาดเกมบน PC กลับไม่ได้กระทบเท่าไรนักเนื่องจากนักเล่นเกมมือโปรก็ยังเล่นเกมหนักๆบน PC ไม่เปลี่ยนไม่ว่าเทรนเทคโนโยโลยีจะออกเพิ่มเติมยังไง

3) กราฟฟิกประมวลผล ตัดต่อหนัง/วีดีโอ ยังไงก็ต้องพึ่ง PC เพราะการ์ดจอที่มีการแสดงผลและการประมวลผลอย่างรวดเร็วทางที่ดีที่สุดก็ยังหนีไม่พ้น PC อยู่ดี

4) Developer ยังไงก็หนีไม่พ้น PC สาเหตุเพราะว่า นักพัฒนาต้องการเครื่องที่มีกำลังสูงและหน้าจอที่ใหญ่ และการใช้เมาส์ พ้อยที่แม่นยำ การใช้ Touchscreen และการพัฒนาบน Tablet คงจะไม่เอื้อเท่าไรนัก

5) การใช้งาน Office เช่นการประชุม Conference ยังไงก็ต้องพึ่ง PC อยู่ สาเหตุเพราะการประมวลผลและ Internet ประจำสถานที่/บ้าน ยังเร็วกว่า Internet ประเภท 3G,4G และต้นทุนต่ำมาก การใช้ Conference บน PC ผ่าน Skype หรือ Hangout ก็ถือเป็นจุดขายที่ดีกว่านั่งมองผ่านจอเล็กๆ การประมวลผลที่เร็วกว่าย่อมทำให้การสื่อสารไม่พลาดได้

6) เครื่องปริ๊น PC มีการเข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่หลากหลายกว่า อุปกรณ์ Smart Device หลายชิ้นยังคงใช้พิมพ์ผ่านเครื่องพิมพ์ไม่ได้แต่ PC มีการรองรับที่เพียบพร้อมไว้แล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นจุดที่ทำให้ PC ยังคงอยู่ต่อไป

7) การพิมพ์และการใช้เมาส์ ปฏิเสธไมไ่ด้เลยว่าการพิมพืและการใช้ Mouse เป็นจุดสำคัญของการใช้งาน PC แม้หลายคนจะบอกมันล้าสมัยไปแล้ว แต่ลองนึกๆดู การพิมพ์บนคีย์บอร์ดยังไงก็เร็วกกว่าการพิมพ์ผ่านหน้าจอเล็กๆ แน่นอน พร้อมกับการใช้เมาส์ก็ยังทำงานได้หลากหลายกว่าการใช้ Touchcscreen ด้วย ฉะนั้นหากยังไม่มีเทคโนโลยีในการทดแทน Mouse และ Keyboard ละก็คงยากแน่นอน

8) Server ที่ยังใช้อุปกรณ์ของ PC ซึ่งนี่ก็เป็นข้อนึงที่ยังไงก็เอื้อมากกว่า สำหรับ PC โดยเฉพาะเลยเนื่องจากต้นทุนที่สูง และค่าใช้จ่ายที่สูงการประมวลผลที่เร็ว จึงจะต้องใช้ PC ต่อไป บางคนสามารถใช้ PC เป็น Server ได้เลยทีเดียว

อย่างที่กล่าวมาทั้งหมด PC ยังไม่ตายแน่นอน เพียงแต่เทรนต่างๆที่สื่อประโคมเข้ามาทำให้คิดว่ามันเริ่มตายจากไปแต่มันผิด เพราะมันแค่ลดลงเนื่องจากมีอุปกรณ์บางอย่างมาทำงานแทนมันในบางฟังก์ชันที่มันด้อยลงเช่น การพกพาไปในทุกสถานที่ การเช็คอีเมล์หรืออ่านข่าวหรือการแชท แต่ข้อดีของ PC ก็ยังหนีไม่พ้นอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผล การพิมพ์การใช้เมาส์หรือการทำงานด้านกราฟฟิก งานหนักๆอย่างนี้ยังไงก็หนีไม่พ้น PC อยู่ดี จึงกล้าบอกว่ามันยังไม่ตายแน่นอนตราบใดที่ยังต้องการอยู่ ขณะเดียวกัน ราคาPC ก็จะสูงขึ้นด้วยตามหลัก Demand / Supply เพราะ Demand ต่ำลง การผลิตก็น้อยลงแต่อยู่ตัวมากยิ่งขึ้น ผู้ผลิตรายเล็กๆลดลง เหลือแต่รายใหญ่เท่านั้น ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ Lenovo นั่นเองที่ทำกำไรจาก PC ได้อยู่ ฉะนั้นอย่าเพิ่งมอง PC เป็นของล้าหลังตราบใดที่เราขาดมันไม่ได้ แต่ขอให้มองให้ออกว่า มันใช้งานอะไรเหมาะกับเราตรงไหน แล้วจะทำให้สามารถเลือกใช้ได้ถูกต้อง

นายไอที

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทิศทางแท๊บเล็ตในปี 2014-2015

ตลาด Tablet และ Smartphone เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2001 สำหรับ สมาร์ทโฟนและ Tablet ในปี 2010 จาก IPad ที่บริษัทแอบเปิ้ล นำโดย สตีฟ จ๊อบ ได้เปิดตัวขึ้น ทำให้ตลาดคอมพิวเตอร์ได้เข้าสู่ทศวรรษใหม่ทันที และตลาดแท๊บเล็ตก็เติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน(2014) โดยมีแนวโน้มที่กลืน PC และเข้าสู่ Personal กันมากขึ้น แต่จุดด้อยของแท๊บเล็ตนั่นก็ยังมีอยู่ นั่นคือการทำงานในออฟฟิต(Office) ทั้งนี้ แม้หลายเจ้าไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง Asus ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android จะพยายามออก Tablet ให้เข้ากับการทำงานออฟฟิตสักแค่ไหน เราจะเห็นได้ตัวอย่างคือ Galaxy Note  ที่มีรุ่นต่างๆพร้อมปากกา Stylus พร้อมกับหน้าจอใหญ่ พร้อมกับคีย์บอร์ด เช่น รุ่น Galaxy Note Pro 12 นิ้ว หรือ Asus ที่เป็นเจ้าแรกในการออกแท๊บเล็ตกับคีย์บอร์ด เช่น Asus Transformer Book 

แต่ว่า ทั้งก็ยังไม่ได้รับการแพร่หลายในการใช้งานในออฟฟิศ ซึ่งข้อนี้เอง เป็นจุดอ่อนของแท๊บเล็ต แต่ว่าความพยายามก็ยังไม่หยุด โดยคราวนี้เป็น Microsoft ที่ได้ออกมาเองโดยออก Microsoft Surface Pro3 ที่มีทิศทางชัดเจนยิ่งขึ้น โดยขยายหน้าจอเป็น 12 นิ้ว และพร้อมกับสเปกระดับ Notebook ออกมาให้เห็นเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามีแนวทางชัดเจนขึ้น แถมยังมีข้อได้เปรียบคือ ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows ที่่ยังเป็นระบบปฏิบัติการยอดฮิต ในปัจจจุบันสำหรับสำนักงาน 
นับเป็นไม้เด็ดอันนึง ของไมโครซอฟท์ ที่พยายามจะชิงตลาดในส่วนของ Tablet จอใหญ่ในสำนักงาน และนี่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Tablet สำนักงานเลยทีเดียว แม้จะมีข้อด้อยที่ยังไม่สามารถใช้กับ 3G หรือ LTE ได้ แต่ว่า หลายๆอย่างก็นับว่า พัฒนาขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจจอคีย์บอร์ด ปากกา และ USB นับว่า ไมโครซอฟท์ทำการบ้านมาดีทีเดียว แต่อย่าลืมข้อด้อยของไมโครซอฟท์คือการตลาดที่ ช้ายิ่งกว่าเต่า อาจจะทำให้พลาดโอกาสอีกก็เป็นได้


แนวทางในปี 2014-2015 นั้นเริ่มมีแนวทางขยายเข้าสู่สำนักงานมากขึ้น คาดว่าในปีหน้า(2015) อาจจะได้เห็นนวัตกรรม สำหรับ tablet ที่ตอบสนองต่อการทำงานในสำนักงานได้อย่างดี การแสดงออกของไมโครซอฟท์ที่แสดงให้เห็นว่า ต้องการปฏิวัติวงการ Notebook อย่างชัดเจน และทำตัวเป็นคู่แข่งของผู้ผลิตหลายราย การทำตัวอย่างนี้ อาจจะทำให้ผู้ผลิตหลายรายไม่พอใจได้ แต่ว่านั่นเองก็อาจจะตรงใจไมโครซอฟท์เพราะ ตอนนี้ผู้ผลิตหลายรายก็เริ่มตีตัวออกห่างไมโครซอฟท์และระบบปฏิบัติการวินโดว์ก็ได้เริ่มได้รับแรงต้านและความนิยมน้อยลงทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นจาก ข่าวล่าสุดที่ทางการจีนไม่อนุญาตให้รัฐบาลติดตั้ง Windows 8 ทั้งหมด  หรือระบบ ATM จากประเทศต่างๆที่เริ่มหันไปใช้ ระบบปฏิบัติการ Linux มากขึ้น นี่ก็เป็นปัญหาที่ไมโครซอฟท์ต้องเพ่งเล็งให้ดี เนื่องจาก การเสียลูกค้าระดับประเทศนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามกันได้ และอาจจะทำให้คู่แข่ง อย่าง Android อาจจะมาเสียบแทบได้ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ผลักดันให้ไมโครซอฟท์ต้องออก Microsoft Surface Pro3 อย่างรวดเร็วทั้งที่ก่อนหน้าที่เพิ่งออก Surface Pro2 ได้ไม่นาน และต่อมาคงจะเห็น Windows 9 ในเร็ววันก็เป็นได้ ขอย้อนกลับมาที่ทิศทางของ Tablet ซึ่งในปลายปี 2014-2015 นี้เราอาจจะได้เห็นสิ่งทีทุกคนคิดนั่นคือ IPad Pro มาเปิดตัวแข่งกับ Surface Pro ก็ได้ ซึ่งถ้ามาจริงย่อมยืนยันทิศทางของตลาดที่ชัดเจนขขึ้น เมื่อ 3 เจ้าใหญ่เริ่มกระโดดเข้ามาเล่น คู่แข่งอย่าง Acer,Asus หรือ อื่นๆ ก็ย่อมไม่หยุดนิ่ง เพราะนั่นหมายถึง ตลาดนี้จะเติบโตแทนแท๊บเล็ตสำหรับผู้บริโภคและบางทีอาจจะไปถึงระบบการศึกษาและข้าราชการทั้งหมด แน่นอนว่าตลาดที่หดตัวคงหนีไม่พ้น Laptop ที่คงจะต้องหดตัวลงแทน PC แน่นอนเทรนใหม่ครั้งนี้ น่าดูชมทีเดียวว่า จะสนุกขนาดไหน Tablet ในการทำงานที่แท้จริง จะเป็นยังไง แล้วจะมี Tablet สำหรับ Developer หรือ Gammer เกิดขึ้นหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าถ้า จะให้เปิดตัวได้ดี จำเป้นจะต้องหดราคาลงมากกว่านี้ เนื่องจาก ราคานั้นสูงมาก สวนกับประสิทธิภาพที่เกิดขึ้น ทำให้หลายองค์กรอาจจะเลือกที่จะไม่เปลี่ยน เพราะต้นทุนนี่เองที่จะเป็นปัจจจัยหลักในการเลือกซื้อ และถ้าบริษัทไหนเล็งเห็นข้อนี้สามารถออก Tablet สำหรับ Office ที่ราคาถูกได้ละก็ เจ้าอื่นเตรียมตัวร้องได้เลยเพราะ มูลค่าตลาดนี้มหาศาลกว่าที่คิดแน่นอน หากไมโครซอฟท์เดินทิศทางไม่ดี อาจจะทำให้พลาดท่าเสียทีให้กับ Linux ระบบปฎิบัติการที่ ตอนนีดูเหมือนจะมาร้อนแรง ในหลายประเทศและเริ่มสนับสนุนโครงการ Opensource สอดคล้องกับแนวทางความต้องการของแต่ละประเทศ (รวมประเทศไทย) แต่ว่ามันก็ยังไม่จบหรอก ยังมี Android, Mac OS ที่พร้อมจะแข่งตลอดเวลา ทิศทางนี้ย่อมร้อนแรง อย่างในอดีตที่ Windows VS Mac ก็เป็นได้

นายไอที