วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทิศทางแท๊บเล็ตในปี 2014-2015

ตลาด Tablet และ Smartphone เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2001 สำหรับ สมาร์ทโฟนและ Tablet ในปี 2010 จาก IPad ที่บริษัทแอบเปิ้ล นำโดย สตีฟ จ๊อบ ได้เปิดตัวขึ้น ทำให้ตลาดคอมพิวเตอร์ได้เข้าสู่ทศวรรษใหม่ทันที และตลาดแท๊บเล็ตก็เติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน(2014) โดยมีแนวโน้มที่กลืน PC และเข้าสู่ Personal กันมากขึ้น แต่จุดด้อยของแท๊บเล็ตนั่นก็ยังมีอยู่ นั่นคือการทำงานในออฟฟิต(Office) ทั้งนี้ แม้หลายเจ้าไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง Asus ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android จะพยายามออก Tablet ให้เข้ากับการทำงานออฟฟิตสักแค่ไหน เราจะเห็นได้ตัวอย่างคือ Galaxy Note  ที่มีรุ่นต่างๆพร้อมปากกา Stylus พร้อมกับหน้าจอใหญ่ พร้อมกับคีย์บอร์ด เช่น รุ่น Galaxy Note Pro 12 นิ้ว หรือ Asus ที่เป็นเจ้าแรกในการออกแท๊บเล็ตกับคีย์บอร์ด เช่น Asus Transformer Book 

แต่ว่า ทั้งก็ยังไม่ได้รับการแพร่หลายในการใช้งานในออฟฟิศ ซึ่งข้อนี้เอง เป็นจุดอ่อนของแท๊บเล็ต แต่ว่าความพยายามก็ยังไม่หยุด โดยคราวนี้เป็น Microsoft ที่ได้ออกมาเองโดยออก Microsoft Surface Pro3 ที่มีทิศทางชัดเจนยิ่งขึ้น โดยขยายหน้าจอเป็น 12 นิ้ว และพร้อมกับสเปกระดับ Notebook ออกมาให้เห็นเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามีแนวทางชัดเจนขึ้น แถมยังมีข้อได้เปรียบคือ ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows ที่่ยังเป็นระบบปฏิบัติการยอดฮิต ในปัจจจุบันสำหรับสำนักงาน 
นับเป็นไม้เด็ดอันนึง ของไมโครซอฟท์ ที่พยายามจะชิงตลาดในส่วนของ Tablet จอใหญ่ในสำนักงาน และนี่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Tablet สำนักงานเลยทีเดียว แม้จะมีข้อด้อยที่ยังไม่สามารถใช้กับ 3G หรือ LTE ได้ แต่ว่า หลายๆอย่างก็นับว่า พัฒนาขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจจอคีย์บอร์ด ปากกา และ USB นับว่า ไมโครซอฟท์ทำการบ้านมาดีทีเดียว แต่อย่าลืมข้อด้อยของไมโครซอฟท์คือการตลาดที่ ช้ายิ่งกว่าเต่า อาจจะทำให้พลาดโอกาสอีกก็เป็นได้


แนวทางในปี 2014-2015 นั้นเริ่มมีแนวทางขยายเข้าสู่สำนักงานมากขึ้น คาดว่าในปีหน้า(2015) อาจจะได้เห็นนวัตกรรม สำหรับ tablet ที่ตอบสนองต่อการทำงานในสำนักงานได้อย่างดี การแสดงออกของไมโครซอฟท์ที่แสดงให้เห็นว่า ต้องการปฏิวัติวงการ Notebook อย่างชัดเจน และทำตัวเป็นคู่แข่งของผู้ผลิตหลายราย การทำตัวอย่างนี้ อาจจะทำให้ผู้ผลิตหลายรายไม่พอใจได้ แต่ว่านั่นเองก็อาจจะตรงใจไมโครซอฟท์เพราะ ตอนนี้ผู้ผลิตหลายรายก็เริ่มตีตัวออกห่างไมโครซอฟท์และระบบปฏิบัติการวินโดว์ก็ได้เริ่มได้รับแรงต้านและความนิยมน้อยลงทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นจาก ข่าวล่าสุดที่ทางการจีนไม่อนุญาตให้รัฐบาลติดตั้ง Windows 8 ทั้งหมด  หรือระบบ ATM จากประเทศต่างๆที่เริ่มหันไปใช้ ระบบปฏิบัติการ Linux มากขึ้น นี่ก็เป็นปัญหาที่ไมโครซอฟท์ต้องเพ่งเล็งให้ดี เนื่องจาก การเสียลูกค้าระดับประเทศนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามกันได้ และอาจจะทำให้คู่แข่ง อย่าง Android อาจจะมาเสียบแทบได้ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ผลักดันให้ไมโครซอฟท์ต้องออก Microsoft Surface Pro3 อย่างรวดเร็วทั้งที่ก่อนหน้าที่เพิ่งออก Surface Pro2 ได้ไม่นาน และต่อมาคงจะเห็น Windows 9 ในเร็ววันก็เป็นได้ ขอย้อนกลับมาที่ทิศทางของ Tablet ซึ่งในปลายปี 2014-2015 นี้เราอาจจะได้เห็นสิ่งทีทุกคนคิดนั่นคือ IPad Pro มาเปิดตัวแข่งกับ Surface Pro ก็ได้ ซึ่งถ้ามาจริงย่อมยืนยันทิศทางของตลาดที่ชัดเจนขขึ้น เมื่อ 3 เจ้าใหญ่เริ่มกระโดดเข้ามาเล่น คู่แข่งอย่าง Acer,Asus หรือ อื่นๆ ก็ย่อมไม่หยุดนิ่ง เพราะนั่นหมายถึง ตลาดนี้จะเติบโตแทนแท๊บเล็ตสำหรับผู้บริโภคและบางทีอาจจะไปถึงระบบการศึกษาและข้าราชการทั้งหมด แน่นอนว่าตลาดที่หดตัวคงหนีไม่พ้น Laptop ที่คงจะต้องหดตัวลงแทน PC แน่นอนเทรนใหม่ครั้งนี้ น่าดูชมทีเดียวว่า จะสนุกขนาดไหน Tablet ในการทำงานที่แท้จริง จะเป็นยังไง แล้วจะมี Tablet สำหรับ Developer หรือ Gammer เกิดขึ้นหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าถ้า จะให้เปิดตัวได้ดี จำเป้นจะต้องหดราคาลงมากกว่านี้ เนื่องจาก ราคานั้นสูงมาก สวนกับประสิทธิภาพที่เกิดขึ้น ทำให้หลายองค์กรอาจจะเลือกที่จะไม่เปลี่ยน เพราะต้นทุนนี่เองที่จะเป็นปัจจจัยหลักในการเลือกซื้อ และถ้าบริษัทไหนเล็งเห็นข้อนี้สามารถออก Tablet สำหรับ Office ที่ราคาถูกได้ละก็ เจ้าอื่นเตรียมตัวร้องได้เลยเพราะ มูลค่าตลาดนี้มหาศาลกว่าที่คิดแน่นอน หากไมโครซอฟท์เดินทิศทางไม่ดี อาจจะทำให้พลาดท่าเสียทีให้กับ Linux ระบบปฎิบัติการที่ ตอนนีดูเหมือนจะมาร้อนแรง ในหลายประเทศและเริ่มสนับสนุนโครงการ Opensource สอดคล้องกับแนวทางความต้องการของแต่ละประเทศ (รวมประเทศไทย) แต่ว่ามันก็ยังไม่จบหรอก ยังมี Android, Mac OS ที่พร้อมจะแข่งตลอดเวลา ทิศทางนี้ย่อมร้อนแรง อย่างในอดีตที่ Windows VS Mac ก็เป็นได้

นายไอที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น