ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า IT กับการบริการนั้นเป็นของคู่กัน โดยตลอด การบริการที่เมื่อก่อนใช้คนทำ เมื่อประยุกต์กับระบบ IT เข้ามาก็ทำให้สะดวกขึ้น และเมื่อมี Smart Device เข้ามาก็กลายเป็น IT เข้าถึงคนมากขึ้น เมื่อ Smart Device รวมกับ Service ก็กลายเป็น Smart Service
Smart Service คือ App ที่เป็นบริการเข้าถึงคนทั่วไป โดยหัวคิดนั้นประยุกต์ ระหว่าง IT กับ Business อย่างแท้จริง ปัจจุบันที่เห็นได้ชัดคือ Uber App บริการแท๊กซี่ที่ ประยุกต์การธูรกิจกับ Service IT อย่างเห็นได้ชัด กลยุทธ์ที่น่าสนใจ ผมขอวิเคราะห์จุดแข็งของ Uber ให้ฟังดังนี้นะครับ
1) Taxi ที่หรูหรา ปัจจุบัน Taxi จะเป็นรถทั่วไปเท่านั้น น้อยนักที่จะมี Taxi หรูหราอย่าง Benz หรือ Camry ที่ขึ้นชื่อว่าหรูหรา ให้ใช้
2) App Uber ที่ครอบคลุมบริการ Uber ได้ประยุกต์ฺ Service เข้ากับ IT อย่างแท้จริง ทำให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ความจริงสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ที่เป็นไปไม่ได้ แต่ว่า คนมักมองไม่เห็น แต่ Uber มองเห็นทำให้เกิดธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้นมาทันที เรียกว่าเข้าถึงกว่าได้เปรียบไป
3) Taxi ขาดการพัฒนาอย่างรุนแรงเพราะ ไม่เคยเข้าถึง IT มาประยุกต์เลย เป็นระบบ manual ตลอด พอเจองานนี้ กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวกับ Taxi ทั่วไปเลยทีเดียว
เบื้องต้นคือสิ่งที่เห็นนะครับ แต่สิ่งสำคัญของการใช้ IT เข้ามาประยุกต์ครั้งอยากให้เล็งเห็นถึง "โอกาส" ครับ
ช่องว่าง IT กับ Service ยังมีอีกมาก เพราะบางอย่างเราทำกันมานานจน คิดว่ามันปกติและมองข้ามไป อย่างเรื่อง Taxi นี้เป็นต้น ลองคิดดูว่า ถ้าเกิดหลายๆอย่างนำ IT+Service เข้ามาละครับ ยกตัวอย่างเช่น สิ่งที่น่าจะทำคือการ ทำ Delivery + IT คิดว่าถ้า KFC หรือร้านอาหาร เกิดใหม่เกิดเปิดโอกาสให้มี Delivery แบบ Online เหมือน Taxi ผ่าน App ล่ะ บางที KFC หรือ พิซซ่าอาจจะพบคู่แข่งที่ไม่คาดคิดก็ได้ อย่าลืมว่าเมืองไทยเมืองร้อน หลายๆคน ไม่อยากจะออกจากบ้านเพราะร้อนมาก ข้อนีอาจจะทำให้เกิดธุรกิจ Delivery ขึ้นมาได้ครับ
IT & Business
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รถยนต์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รถยนต์ แสดงบทความทั้งหมด
วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
นวัตกรรมพิชิตฟรี IT(1)
สำหรับนวัตกรรมการพิชิตของฟรีนั้น
สิ่งที่เป็นนวัตกรรมไม่ใชสิ่งใหม่แต่เป็นสิ่งที่ทำแล้วดีขึ้นจากเดิม
ต่อยอดให้ดีขึ้น เช่น IPhone ฆ่า iPod เป็นต้น สำหรับนวัตกรรมใหม่ในโลกที่จะมาแทนนั้น
ดูเหมือนกำลังเน้นหนักไปที่รถยนต์ไร้คนขับ(Non-Human Drive) โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาแทนซึ่ง
ตอนนี้ Google ได้เปรียบที่สุด แต่ว่าใช่ว่าจะมีแต่ทางนี้ทางเดียว
สำหรับนวัตกรรมที่จะมานั้นไม่ใช่แค่ Smart Car แต่ต้องนอกจากนั้นด้วย
สำหรับความคิดผม Smart Car นั้นดีแน่ เพราะเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการรถยนต์
แน่นอนช่วงแรก 5-6 ปีแรก มันคงแพงมากแต่ต่อไปก็จะเป็นตามกลไลตลาดก้คือถูกลงนั่นเอง
แต่ว่าสำหรับผม นวัตกรรม Smart Car ผมว่าแค่กการสื่อสารน่ะมันเล็กๆ สำหรับผมว่า
นวัตกรรมรถยนต์ที่ดี ควรจะเป็นพลังงานสะอาดควบคู่ไปด้วย
เพราะว่ารถยนต์นั้นถูกต่อต้านส่วนนึงจากหลายๆคนว่า เป็นสินค้าทำลายสิ่งแวดล้อม
เพราะปล่อยก๊าซพิษทางท่อไอเสีย สำหรับผม ถ้ามี Smart Car แล้วรถไร้คนขับ
สิ่งที่ควรมีคือนวัตกรรมในการจัดการกับเครื่องยนต์หรือรถยนต์สะอาดที่ไม่ใช้พลังงานน้ำมัน
ที่ปล่อยก๊าซพิษแต่ควรเป็น รถที่ปล่อยของเสียแบบใหม่ นั่นคือปล่อยออกมาเหมือนถ่ายอุจจาระคือเป็นก้อนอินทรีย์
ที่สามารถนำไปใช้เป็นสิ่งอื่นต่อไปได้ สำหรับผมการเลียนแบบบางอย่างที่ธรรมชาติให้มา
นั้นไม่ใช่สิ่งน่าอายเลย การนำรถเข้าสุขารถยนต์ ผมว่าก็ไม่น่าเกลียดถ้ามันจะทำให้รถยนต์สามารถรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ได้
หรืออีกทางเลือกนึงที่ผมสนับสนุนนั่นคือรถยนต์พลังงาน นิวเคลียร์
หรือเบากว่านั้น ถ้ามีนวัตกรรมพลังงานแบบใหม่
โดยที่ผมสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์เพราะลดการใช้น้ำมันหากมี Smart Car ที่ควบคุมรถยนต์แทบคน
ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น และการใช้พลังงานนิวเคลียร์ก็ยังประหยัดอีกมากด้วย
เพราะพลังงานนิวเคลียร์กก้อนเดียว ถ้ามีการจัดการที่ดี อย่างน้อยๆรถคันนึงก็ไม่ต้องเติมอีกเลยประมาณ
5 ปี และยิ่งมี Smart Car ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมตรวจสภาพรถแล้วละก็
ปัญหาเรื่องสภาพรถจะรัดกุมยิ่งขึ้น ผมจึงสนับสนุน
แนวทางรถยนต์สะอาดเป็นนวัตกรรมอย่างนึงที่ แนวโน้มหลายบริษัทจะทำได้
และแน่นอนผมสนับสนุนแนวทางของ Microsoft, Apple และ Nokia สาเหตุเพราะผมศรัทธาใน
ทุกสิ่งมีต้นทุน และทุกคนควรเห็นว่าต้นทุนที่แท้จริงคืออะไร
ไม่ใช่ฟรีอย่างไร้เหตุผล
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)